รถยนต์ไฟฟ้า หรือ BEV สิ่งที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวงการยานยนต์ให้พัฒนาไปอีกขั้น และ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เชื่อว่าหลายๆคนกำลังตัดสินใจว่าตกลงแล้วรถยนต์ไฟฟ้านั้นเหมาะกับเราหรือไม่ ฉะนั้นก่อนที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาเช็คกันก่อนว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่
1.จุดชาร์จ
หากคุณเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวการหาจุดชาร์จอาจไม่เรื่องยากสักเท่าไหร่ เพราะคุณสามารถติดตั้งชุดชาร์จของท่านเองได้ที่บ้าน แต่ถ้าหากคุณอยู่คอนโด หรือ ที่พักที่ไม่สามารถติดตั้งที่ชาร์จได้แล้ว จำเป็นต้องเช็คก่อนว่าในระยะ 5-10 กิโลเมตรมีจุดชาร์จหรือไม่ และ เพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ เช่น รองรับได้จำนวน 3 คันขึ้นไป เป็นตู้ชาร์จไว และ เปิดตลอดเวลาหรือไม่ จุดนี้ควรเป็นข้อแรกๆที่คุณจำเป็นต้องคิดก่อนตัดสินใจ
2.ความเหมาะสมในการใช้งาน
หากคุณเป็นคนที่มีการเดินทางที่ชัดเจนในทุกๆวัน เดินทางในเมือง หรือ ต่างจังหวัดที่มีเส้นทางเดิมประจำรถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวเรื่องที่เหมาะสม เพราะคุณสามารถวางแผนจุดชาร์จได้เช่นที่ทำงาน หรือที่บ้าน เพื่อสำรองแบตให้พอดีกับการเดินทาง
แต่ถ้าหากถ้าคุณมีการเดินทางไม่มีแน่ชัด เช่นเดินทางด่วนไปต่างจังหวัดด่วนบ่อยๆ หรือ อะไรที่ต้องทำเวลารถยนต์ไฟฟ้าอาจเริ่มตอบโจทย์น้อยลงกับเวลาที่แข่งขันกันมากขึ้น คุณอาจต้องเสียเวลา 20-30 นาทีเพื่อแวะชาร์จก่อนจะออกเดินทางทำให้ถึงปลายทางช้าลงนั้นเอง
3.ค่าประกันภัย
ค่าประกันภัยเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรทำอยู่แล้ว เช่นกันกับรถยนต์ไฟฟ้าเพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีหัวใจหลักคือแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ และ มูลค่าสูงถึง 30-70% ของตัวรถยนต์ ถ้าหากคุณไม่ทำประกันภัยอาจเจ็บหนักได้ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ และโดยเฉลี่ยค่าประกันภัยจะมีเบี้ยประกันที่แอบแพงกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย ถึงปานกลางอีกดวยนั้นเอง
4.ยาง
รถยนต์ไฟฟ้าอย่างที่เรารู้กันยางรถยนต์ไฟฟ้าจะออกแบบมาให้ทนแรงบิดและรองรับการใช้ความเร็วสูงฉะนั้นการเลือกซื้ออย่างก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยผูผลิตยางหลายเจ้าเริ่มผลิตยางที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะแล้วในปัจุบัน
5.ค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติม
การมีรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องดูแลแบบรถยนต์น้ำมันแน่นอน แต่ว่ายังต้องมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ต้องเข้าศูนย์ไปเปลี่ยนด้วยเช่นกันตามรถยถที่บริษัทรถยนต์กำหนด และ น้อกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่น ค่าติดตั้งหัวชาร์จ เดินไฟ ขอมิเตอร์ไฟ ค่ารอระหว่างชาร์จ เช่น ค่ากาแฟ ขนม และ รวมถึงเวลาที่ไม่สามารถประเมินราคาอีกด้วย
แต่ถ้าหากคุณพร้อมแล้วรถยนต์ไฟฟ้าก็อาจตอบโจทย์คุณได้อย่างดีทั้งแรงและประหยัดแถมลดมลพิษทางอากาศในตัวเมืองได้อย่างดี แต่ถ้าหากคุณยังไม่พร้อมแต่ยังชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า การเลือกซื้อรถยนต์ Hybrid ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่แย่เลยทีเดียวครับ
แต่ไม่ว่ารถยนต์ไฟฟ้า ไฮบริด หรือ น้ำมันก็ยังต้องดูแลให้ดูใหม่อยู่เสมอด้วยการเคลือบแก้วชั้นดีจาก Fixcarcare เรามีบริการเคลือบแก้ว ล้างรถ ดูดฝุ่น พร้อมการรับประกันที่สามารถเข้าสาขาของเราได้ทั่วประเทศ Fixcarcare เรามีประสบการณ์ด้ารการเคลือบแก้วมาไม่น้อยกว่า 10 ปี ด้วย ช่างที่ชำนานการ และ การดูแลเอาใจใส่เอาดีทุกขั้นตอน พร้อมการรับประกันอย่างดีเยี่ยม
สนใจสามารถปรึกษาเราก่อนได้เลยนะครับที่ LINE: @fixcarcare