รถไฟฟ้า vs Hybrid แบบไหนเหมาะสมกับคุณ ฉบับ 2566

เทรนรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมา เมื่อรถไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยอย่างมากในตอนนี้ ทั้งยอดจดทะเบียนรถไฟฟเาที่เพิ่มขึ้น และ การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างล้นหลามทำให้การออกรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมในไทยสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพิจารณากับประเภทรถที่ใกล้เคียงกันอย่างรถ Hybrid ที่เป็นน้ำมันกึ่งผสมกับไฟฟ้า แล้วอย่างไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน

รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า – รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมแรงบิดในรอบต่ำ แถมมาพร้อมกับความเงียบ และ แรงแบบไม่ต้องจูนเพิ่ม ลดการเกิดมลพิษในอากาศทั้งในตัวเมือง และ นอกเมือง สามารถจอดรอได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าคนรอบข้างจะได้รับผลกระทบ ดูแลรักษาง่าย

ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า – อย่างแรกระยะเวลาในการชาร์จอาจนานถึง 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับหัวชาร์จ และ ต้องรอคิวในการหาขช่องชาร์จ และ ค่าประกันก็มีราคาค่อนข้างสูง และ ตัวแบตเตอรี่ถังจะมีการรับประกัน แต่ก็ยังมีให้เจ้าของต้องลุ้นว่าต้องจ่ายค่าแบตในอนาคตหรือไม่

รถยนต์ไฮบริด หรือ HEV

ข้อดีของรถยนต์ไฮบริด – ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นจากรถยนต์สันดาปล้วน โดยรถยนต์ไฮบริดส่วนมากจะทำค่าเฉลี่ยได้ราวๆ 18- 25 กม/ลิตร ลดการมลพิษในตัวเมืองได้แบบรถไฟฟ้า มีแรงบิดทั้งมอตเตอร์ และเครื่องยนต์  ไม่ต้องรอชาร์จ ค่าประกันถูกกว่า การดูแลรักษาแบบรถยนต์ทั่วไป แบต EV ลูกเล็กค่าใช้จ่ายระยะยาวเปลี่ยนลูกใหม่ไม่แพง

ข้อเสียรถไฮบริด – อัตราเร่งไม่จี๊ดแบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% การทำความเร็ว 0-100 ค่อนข้างอืด แบตเตอรี่ลูกเล็กกว่า โดยเฉลี่ยมีความจุเพียงแค่ 1-2 Kwh เท่านั้น ทำให้ใช้โหมด EV ได้ในระยะทางสั้นๆเท่านั้น ยังคงต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และ ต้องดูแลรักษาระบบไฟฟ้าในอนาคต เช่น inverter

เป็นอย่างไรบ้างครับระหว่างรถยนต์ทั้งสองประเภท ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความชอบและโจทย์สำคัญของแต่ละบุคคลว่าชอบแบบใดมากกว่า แต่ท้ายที่สุดแล้วรถยนต์ทั้งสอบแบบก็ออกแบบมาเพื่อให้ลดการเกิดมลพิษในอากาศ หากคุณเป็นคนที่ชอบเรื่องอัตราเร่ง และ เทคโนโลยีใหม่ๆคุณอาจเอียงไปทางรถ EV แต่ถ้าหากคุณยังกังวลกับค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ และ ค่าแบตที่แสนแพงก็อาจเอียงไปทางรถยนต์ HEV ที่เน้นไปที่การประหยัดน้ำมัน และ มีโหมดไฟ้าให้ใช้แบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน