การปกป้องรถยนต์มีหลากหลายวิธีให้คุณเลือกทั้งการเคลือบแก้วด้วยน้ำยา และการติดฟิล์มแบบใช้การหุ้มพลาสติกไปที่สีผิวของรถยนต์โดยตรง ฉะนั้นข้อดีและข้อเสียทั้งสองแบบจะมีแตกต่างกันออกไปดังนี้
- การเคลือบแก้ว
ข้อดี – ราคาประหยัดเริ่มต้นเพียงหลักพัน ไปถึงหมื่นบาท ดูแลรักษาง่าย กระบวนการเคลือบแก้วตั้งแต่เริ่มต้นไปยังกระบวนการสุดท้ายไม่มีขั้นตอนที่อาจเกิดความเสี่ยงในการเกิดริ้วรอยบนตัวรถ ระยะเวลาปกป้องยาวนาน ช่วยให้สีรถยนต์ดูใหม่เสมอ ป้องกันคราบน้ำ และ ง่ายต่อการแก้งาน ป้องกัน UV ที่อาจทำให้สีรถยนต์ของคุณซีดด้ในอนาคต - ข้อเสีย – ไม่สามารถป้องกันเศษหินได้อย่างเต็ม 100% สารเคลือบอาจเสื่อมการใช้งาน และ หากร้านเคลือบแก้วที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้ความหนาไม่เท่ากัน
การติดฟิล์ม หรือ การ Wrap ตัวรถยนต์
- ข้อดี – ป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม มีสีให้เลือกมากมาย สามารถเปลี่ยนสีรถยนต์ไปตามสีที่ต้องการได้ มีการป้องกันที่แน่นหนา และ ป้องกันได้จริง
- ข้อเสีย – ราคาค่อนข้างสูง กระบวนการการติดตั้งอาจเกิดความเสี่ยงกับตัวรถยนต์ เช่นการกรีดฟิล์มตามร่องของรถยนต์ หากติดไว้นานเกิดไปอยากทำให้ฟิล์มไม่สามารถลอกออกได้ยากยิ่งขึ้น เกิดคราบกาว และ อาจพองได้ในอนาคต
แล้วแบบนี้เลือกแบบไหนดี?
จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับท่านว่ามีความต้องการในการป้องกันที่ระดับไหน ถ้าคุณต้องการป้องกันแบบเห็นผลได้ชัดเจนแนะนำให้ใช้แบบติดฟิล์ม ซึ่งสามารถเลือกสีได้ และ ป้องกันได้อย่างดี แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ต้องการความเรียบง่าย เน้นสีรถยนต์ที่เงางาม ป้องกันคราบน้ำจากฝน และ สิ่งไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ การเคลือบแก้วก็สามารถทำหน้าที่ได้แอย่างดีเลยทีเดียว
ทำไมต้องเคลือบแก้วกับ Fixcarcare?
Fixcarcare เราเป็นร้านเคลือบแก้วที่มีสาขาทั่วประเทศ ประสบกาณ์ความชำเนยมากกว่า 10 ปี งานเคลือบแก้วของเรามีการรับประกันอย่างดี และ ราคาโปรโมชั่นเคลือบแก้วที่สามารถเข้าภึงได้ง่าย และ คุณภาพดี ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น หากสนใจลองสอบถามได้กับพนักงานของเราที่ @fixcarcare ได้ตลอดเวลา